กำเนิดของธงสยาม
ประวัติศาสตร์การใช้ธงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย สามารถสืบได้ความแต่เพียงว่า ไทยได้ใช้ธงสีแดงเป็นเครื่องสำหรับเรือกำปั่นเดินทะเลทั่วไปมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และยังไม่ได้มีธงชาติไว้ใช้ดังที่เข้าใจในปัจจุบัน ในจดหมายเหตุต่างประเทศแห่งหนึ่งได้กล่าวว่า ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2199 - พ.ศ. 2231) เรือค้าขายของฝรั่งเศสลำหนึ่งได้เดินทางมากรุงศรีอยุธยา เมื่อมาถึงที่ป้อมแห่งหนึ่งของไทย เรือฝรั่งเศสก็ชักธงชาติของตัวเองขึ้น ฝ่ายไทยยิงสลุตคำนับตามธรรมเนียม แต่เมื่อฝ่ายไทยชักธงขึ้นตอบบ้าง ฝ่ายฝรั่งเศสกลับไม่ยิงสลุตคำนับตอบ เพราะได้ชักเอาธงชาติฮอลันดา (เนเธอร์แลนด์) ขึ้นเหนือป้อมด้วยเหตุว่าไทยไม่มีธงชาติของตนใช้ (ขณะนั้นฝรั่งเศสกับฮอลันดาเป็นศัตรูกัน) ฝ่ายไทยได้แก้ไขปัญหาโดยชักผ้าสีแดงขึ้นแทนธงชาติฮอลันดา ฝรั่งเศสจึงยอมยิงสลุตคำนับตอบ เหตุการณ์ดังกล่าวจึงถือกันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ธงชาติไทย
| ภาพธง | ระยะเวลาการใช้ | การบังคับใช้ธง |
|---|---|---|
| สมัยอยุธยา - พ.ศ. 2325 (ธงเรือหลวง) สมัยอยุธยา - พ.ศ. 2398 (ธงเรือเอกชน) | ใช้เป็นธรรมเนียมสืบมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช | |
| พ.ศ. 2325 - 2360 | พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช | |
| พ.ศ. 2360 - 2398 | พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย | |
| พ.ศ. 2398 - 2459 | พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยาม รศ. 110 [14]พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 116 [7] พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 118 [8] พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129[15] | |
| พ.ศ. 2459 - 2460 | พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 (ธงราชการ) [15] พระบรมราชโองการ ประกาศเพิ่มเติมและแก้ไขพระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 พ.ศ. 2459[16] | |
| พ.ศ. 2459 - 2460 | พระบรมราชโองการ ประกาศเพิ่มเติมและแก้ไขพระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 พ.ศ. 2459[16] (ในชื่อ "ธงค้าขาย") | |
| พ.ศ. 2460 - ปัจจุบัน | พระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติธง พระพุทธศักราช 2460 [10] พระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2479[13] พระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2522 |
สีแดงนั้น หมายถึง ชาติ
แล้วทำไม ไม่เป็นแถบเดียว
เพราะชาติไทยเอง ก็ไม่ใช่แค่แผ่นดินผืนเดียว แต่...ยังมีเกาะนับร้อย ที่อยู่ในอาณาเขตของประเทศไทยด้วย ก็คงเหมือนกับธง แม้จะไม่ได้อยู่เป็นแถบเดียวกัน แต่นั่น ก็คือชาติไทยเหมือนกัน
ต่อไป สีขาว
สีขาว ก็คือ ศาสนา เช่นกัน ประเทศไทยไม่ได้มีศาสนาเดียว แต่ มีหลายศาสนาอยู่ร่วมกัน ภายใต้ร่มธงไทย
ดังนั้น แม้จะเป็นคนละศาสนา แต่อยู่ในประเทศไทย ก็คือคนไทยเหมือนกัน
แต่...สีน้ำเงิน
สีน้ำเงินนั้น หมา่ยถึง พระมหากษัตริย์ มีพระองค์เดียวเท่านั้น ไม่อาจแบ่งแยก และมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดของประเทศไทย จึงกลายเป็นสีที่ใหญ่ที่สุด และมีเพียงแถบเดียวเท่านั้น...
แล้ว...คุณเคยรู้ตัวบ้างมั้ย ว่าตอนนี้ ธงชาติไทย ถูกทำลายไปแค่ไหนแล้ว
จริงๆแล้ว ตัวธงชาติ ก็คงจะอยู่เหมือนเดิม ไม่มีใครกล้าไปขีดเขียนทำลายหรอก
แต่... สถาบันหลักทั้ง 3 กลับถูกบั่นทอน ทำให้แปดเปื้อนโดยฝีมือของผู้ใหญ่เลวๆหลายๆคน
อย่างเช่น
ชาติ
ตอนนี้ชาติไทย โดนรุกทำร้ายจากกี่ทิศกัน
คำตอบคือ ทุกทิศทุกทาง
ทางเหนือยาวไปถึงฝั่งตะวันตก ถูกรุกโดยยาบ้า และกลุ่มค้ายาบ้ามากมาย
ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ก็มีปัญหาพรมแดนเรื่องเขาพระวิหารอยู่ ซึ่งดูท่าแล้ว จากการที่ผมอ่านข่าว คงจะเสียดินแดนส่วนนั้นแน่ หากนักการเมืองยังเป็นเช่นนี้...
ทางใต้ ก็อย่างที่รู้ๆกันว่า โดนกลุ่มคนชั่ว ที่ใช้ศาสนาบังหน้า มาหาผลประโยชน์ ก่อความวุ่นวาย
ตอนนี้ชาติเรา คงจะเหมือนโดนแช่ในน้ำกรด โดนกัดจากทุกทาง เสื่อมเสียย่อยยับไปเสียหมด...
แล้วศาสนา
ศาสนานี้ แค่ศาสนาพุทธ ก็มีมารศาสนามากมาย อยู่ในคราบผ้าเหลือง แต่ทำตัวอัปรีย์สิ้นดี ยังเที่ยวเตร่ กินเหล้าเมาเหมือนหมาก็ไม่ปาน ยังมีมั่วสีกาก็เยอะ แถมมีหลอกนักศึกษามามั่วประเวณีอีกต่างหาก และ จากการที่ผมเคยไปถามตรงๆมาแล้ว มี "ไอ้มารห่มผ้าเหลือง" เคยพูดว่า ก็เป็นพระ ไม่ต้องหาเงิน มีกินไปเรื่อยเปื่อย เรื่อยๆได้ แถมยังได้เงินอีก เรื่องอะไรกูจะสึก
......
แต่ชาติไทย ก็ไม่ได้มีศาสนาเดียว
อย่างศาสนาอิสลาม ก็มีมารศาสนา อ้างศาสนาบังหน้า เพื่อหาผลประโยชน์ บ่อนทำลายบ้านเมือง ฆ่าคนเป็นว่าเล่น ผมถามหน่อยเถอะ มีศาสนาไหนเหรอ ที่สอนให้ทำระเบิด สอนให้ถือ AK ไล่กราด
ผมเชื่อว่าในพระคัมภีร์ ไม่มีแน่นอน...
ลึกๆในใจผม ยังเชื่อมั่นในมุสลิมทุกคนนะครับ...
ส่วนสถาบัน พระมหากษัตริย์
ถึงกับมีการทำคลิปล้อเลียน เป็นอะไรที่ผมเคียดแค้นมาก
แล้วยังมีการพูดพาดพิงทางการเมืองบ่อยครั้ง อยากจะถามจริงๆ ว่า ท่านเคยทำอะไรเสียหายกับบ้านเมืองเหรอ
คำตอบคือ ไม่มีเลย กลับกัน ท่านทำแต่ประโยชน์มากมาย ทำให้บ้านเมืองก้าวหน้า แก้ปัญหาตรงจุด และไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆด้วย
พูดได้ว่า ดีกว่า นักการเมืองชั่วๆ หลายคนเลย
ผมไม่สนหรอกนะ ว่าเป็นใคร ที่พูดหมิ่นพระมหากษัตริย์
ผมรู้แค่ว่า คนๆนั้น สิ้นคิด และ โง่ บัดซบ
และไม่ใช่แค่ที่กล่าวมา
ตอนนี้ การทุจริต เหมือนกับเป็นเรื่องปกติ
ผู้ที่ไม่ทำสิ อยู่ไม่ได้
อยากจะถามว่า....ไอ้ชาติบ้านเมืองที่ท่านเอามาประมูลเล่น
หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
ตัวท่านเอง เป็นคนสร้างชาติไทยนี้ขึ้นมาเหรอ
คำตอบคือ บรรพบุรุษของพวกเราทั้งนั้น ที่เป็นคนหลั่งเลือดสร้างมา
บรรพบุรุษเราเสียสละไปมากแค่ไหนแล้ว
แทบจะเอาเลือดของพวกท่านอาบทั่วแผ่นดินไทยอยู่แล้ว
แต่...กลับถูกคนชั่วๆ ใช้เป็นแค่ เครื่องมือหาเงินเข้ากระเป๋า...
ผมว่า บรรพบุรุษของท่าน คงนั่งร้องไห้อยู่บนสวรรค์แน่นอน...
| ภาพธง | ระยะเวลาการใช้ | การบังคับใช้ธง |
|---|---|---|
| สมัยอยุธยา - พ.ศ. 2325 (ธงเรือหลวง) สมัยอยุธยา - พ.ศ. 2398 (ธงเรือเอกชน) | ใช้เป็นธรรมเนียมสืบมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช | |
| พ.ศ. 2325 - 2360 | พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช | |
| พ.ศ. 2360 - 2398 | พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย | |
| พ.ศ. 2398 - 2459 | พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยาม รศ. 110 [14]พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 116 [7] พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 118 [8] พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129[15] | |
| พ.ศ. 2459 - 2460 | พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 (ธงราชการ) [15] พระบรมราชโองการ ประกาศเพิ่มเติมและแก้ไขพระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 พ.ศ. 2459[16] | |
| พ.ศ. 2459 - 2460 | พระบรมราชโองการ ประกาศเพิ่มเติมและแก้ไขพระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 พ.ศ. 2459[16] (ในชื่อ "ธงค้าขาย") | |
| พ.ศ. 2460 - ปัจจุบัน | พระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติธง พระพุทธศักราช 2460 [10] พระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2479[13] พระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2522 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น